HOW TO รับมือค่าไฟขึ้นช่วงหน้าร้อน

เข้าสู่หน้าร้อนทีไร อากาศที่ว่าร้อนแล้วเมื่อเจอบิลค่าไฟ ทำให้หัวร้อนเข้าไปใหญ่ ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าการไฟฟ้าฯ แอบขึ้นค่าไฟหรือเปล่า บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจว่าทำไมช่วงหน้าร้อนค่าไฟถึงแพงขึ้น โดยเฉพาะช่วงเดือนเมษายนที่อากาศร้อนมหาโหด รวมไปถึงมีวิธีรับมือค่าไฟขึ้นมาฝากกันด้วย

เปิดเหตุผล ทำไมหน้าร้อนค่าไฟขึ้นทุกที?

อย่างที่เกริ่นไปว่าคงมีใครหลาย ๆ คนแอบสงสัยว่าการไฟฟ้าฯ มีการขึ้นค่าไฟหรือไม่ ความจริงแล้ว ค่าไฟปรับสูงขึ้นเกิดจากหลายปัจจัยรวมกัน ซึ่งหลักๆแล้วส่วนหนึ่งมาจากค่าFtที่พุ่งสูงขึ้น

คำว่า Ft ย่อมาจาก “Float time” คือสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติหรือค่าไฟฟ้าผันแปร ซึ่งเป็นค่าไฟฟ้าที่ปรับเปลี่ยนเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามการเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่การไฟฟ้าไม่สามารถควบคุมได้ อย่างราคาเชื้อเพลิง อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินต่างประเทศ อัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น โดยค่า Ft จะมีการประกาศทุก ๆ 4 เดือน ว่าจะเพิ่มขึ้น เท่าเดิม หรือลดลง สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ไขข้อสงสัยทำไมค่าไฟแพงผิดปกติ

อีกสาเหตุที่ทำให้บิลค่าไฟขึ้นก็เป็นเพราะว่าอากาศที่ร้อนจัด ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ 36-40 องศาเซลเซียส ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยเฉพาะเครื่องที่ต้องทำความเย็นอย่างเครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักมากกว่าปกติ เช่น หากต้องการเปิดเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสในช่วงหน้าร้อน แอร์ก็จะทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อปรับลดอุณหภูมิจาก 40 องศาเซลเซียสให้ลดมาเป็นอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งมีความต่างกันถึง 15 องศาเซลเซียล ในทางกลับกันช่วงหน้าหนาว หรือช่วงที่อากาศมีอุณหภูมิก่อนเปิดแอร์อยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส ถ้าต้องการเปิดแอร์ในห้อง 26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิจะมีความต่างกันเพียง 4 องศาเซลเซียสเท่านั้น ทำให้การทำงานของแอร์น้อยกว่าในช่วงหน้าร้อน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้หน่วยการใช้ไฟฟ้าช่วงหน้าร้อนเพิ่มมากขึ้น และค่าไฟสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

วิธีประหยัดไฟ รับมือค่าไฟขึ้นช่วงหน้าร้อน

  • เปิดแอร์ให้ถูกวิธี

เพื่อไม่ให้แอร์ต้องทำงานหนักจนเกินไป อย่างแรกเลยคือไม่ควรตั้งอุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส หรือควรปรับให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิภายนอกให้ได้มากที่สุด แนะนำให้ตั้งอุณหภูมิประมาณ 26-27 องศาเซลเซียส ซึ่งหากรู้สึกว่ายังร้อนอยู่ ให้เปิดพัดลมควบคู่ไปด้วยจะเป็นการช่วยเพิ่มความเร็วลม และกระจายทิศทางลมภายในห้อง ซึ่งจะทำให้รู้สึกเย็นสบาย ระบายความร้อนได้ดี

และอย่างต่อไป คือการเลือกขนาดของแอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง รวมไปถึงแนะนำให้เลือกใช้แอร์ระบบ Inverter เป็นตัวเลือกที่ดีในการช่วยประหยัดไฟ เพราะเมื่อใดที่อุณหภูมิในห้องมีการเปลี่ยนแปลง คอมเพรสเซอร์แอร์จะปรับรอบไปตามอุณหภูมิ โดยจะทำการลดหรือเพิ่มรอบ ไม่ได้ตัดไฟเพื่อสตาร์ทใหม่ จึงทำให้อุณหภูมิคงที่ ประหยัดพลังงานกว่าระบบแอร์แบบธรรมดานั่นเอง และจะดียิ่งกว่าถ้าเลือกแอร์ติดผนัง PSI รุ่น i13 (2023) ประสิทธิภาพคุ้มราคา รับประกันนานถึง 3 ปี

  • ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้งหลังเลิกใช้งาน

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วบางประเภท แม้จะปิดเครื่องไปแล้วแต่หากไม่ได้ถอดปลั๊กออกจะเท่ากับเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นยังกินไฟอยู่เพราะยังคงมีกระแสไฟวิ่งอยู่ตลอดนั่นเอง จึงควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังเลิกใช้งานเพื่อเป็นการลดค่าไฟประหยัดพลังงาน และยังช่วยป้องกันการเกิดอัคคีภัยได้อีกด้วย

  • เลือกใช้หลอดไฟ LED แทน

หากที่บ้านใครยังใช้หลอดไส้หรือหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์อยู่ แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED แทน เพราะนอกจากจะได้ความสว่างที่มากกว่าแล้ว ยังกินไฟน้อย สามารถประหยัดได้มากถึง 90% ถือว่าคุ้มค่าในระยะยาว

  • จัดระเบียบและล้างตู้เย็น

การที่ตู้เย็นรก มีของอัดแน่นอยู่จำนวนมาก ๆ จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักกว่าปกติและกินไฟมากขึ้น แถมยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วย การล้างตู้เย็นใหม่ ทิ้งของที่เสีย แล้วจัดระเบียบใหม่ให้เรียบร้อย นอกจากจะช่วยประหยัดไฟแล้ว ยังช่วยรักษาวัตถุดิบในตู้เย็นให้มีความสดนานขึ้นได้อีกด้วย

  • ติดม่านป้องกันแสงแดด

การติดผ้าม่านกัน UV จะช่วยลดแสงแดดที่ส่องผ่านเข้ามาให้บ้านได้พอสมควร เพราะแดดที่ส่องเข้ามาในบ้านเป็นสาเหตุที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น การทำเช่นนี้จะช่วยให้แอร์ไม่ทำงานหนักจนเกินไป ช่วยประหยัดไฟ แถมการเปลี่ยนผ้าม่านตกแต่งบ้านใหม่ยังช่วยให้บ้านดูทันสมัยและสวยงามอีกด้วย

  • เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5

คงไม่มีใครไม่รู้จักฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอย่างน้อยต้องมีสักชิ้นที่มีฉลากนี้ติดอยู่ ซึ่งฉลากนี้คือเครื่องหมายที่บ่งบอกระดับการใช้ไฟฟ้าและข้อมูลเบื้องต้นต่าง ๆ ของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายต่อปี เพื่อให้เราสามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ความประหยัดตั้งแต่เบอร์ 1 ถึงเบอร์ 5 ที่แปลว่าประหยัดไฟมากที่สุด

หากใครกำลังมีแพลนจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่าลืมมองหาฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ซึ่งปัจจุบันมีรูปแบบใหม่ ที่สามารถสังเกตง่าย ๆ คือจะมีดาวบนฉลากตั้งแต่ 1-3 ดวงเพิ่มขึ้น ยิ่งดาวมาก แปลว่ายิ่งประหยัดไฟมาก

  • บอกลาเครื่องใช้ไฟฟ้าตัวเก่า

เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอายุการใช้งานมานานหลายปี มักจะผ่านการทำงานมาอย่างหนักหน่วง ส่งผลให้ค่าไฟขึ้นสูงได้ ซึ่งอายุการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดจะมีไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับการใช้งานของเจ้าของด้วย เช่น เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ยประมาณ 10 ปี พัดลม 15 ปี และตู้เย็น 13 ปี ดังนั้นอย่าลืมไปเช็กกันว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านแต่ละชนิดที่ซื้อมา ใช้งานมาแล้วกี่ปี สภาพการใช้งานเป็นอย่างไร ถึงเวลาต้องซื้อเปลี่ยนใหม่แล้วหรือยัง

  • ติดตั้งโซล่าเซลล์ ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แทน

พลังงานที่ได้จากการติดโซล่าเซลล์จะเป็นการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยมีแผงโซล่าเซลล์เป็นตัวกลาง ซึ่งพลังงานที่ได้จะเป็นพลังงานสะอาด  ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญคือสามารถลดค่าไฟที่พุ่งสูงขึ้นได้อย่างแน่นอน 

โซล่าเซลล์จะมีด้วยกันอยู่หลายระบบ จำเป็นจะต้องดูว่าการใช้ไฟของเราเหมาะกับการติดโซล่าเซลล์แบบไหน ถ้าหากต้องใช้ไฟในตอนกลางคืนมากกว่า หรืออยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลไม่มีไฟฟ้า การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์แบบ Off Grid และ Hybrid จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะทั้ง 2 ระบบนี้จะมีการสำรองไฟฟ้าไว้ในแบตเตอรี่เพื่อสำรองจ่ายไฟในเวลากลางคืนที่ไม่มีแสงแดด แต่ที่ได้รับความนิยมติดมากที่สุดคือ ระบบโซล่าเซลล์แบบ On Grid เพราะเป็นระบบที่เชื่อมต่อกับระบบของการไฟฟ้า เหมาะกับบ้านที่ใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลากลางวัน จะผลิตพลังงานไฟฟ้าแล้วใช้เลย ไม่มีแบตเตอรี่สำรองเก็บไฟไว้ และหากไฟเหลือก็ใช้สามารถขายคืนให้กับภาครัฐได้

 

ติดโซล่าเซลล์ระบบออนกริด (On Grid) ตัวไหนดี?

รุ่น รุ่น Easy Plug รุ่น P33 รุ่น P50 รุ่น P100
ขนาด 400W 3.3kW 5kW 10kW
ราคา

(บาท)

14,900 135,000 เริ่มต้น

199,000

350,000 
ประหยัดไฟ* 3,600 บาท/ปี 2,500 บาท/เดือน 3,900 บาท/เดือน 7,800 บาท/เดือน
แนะนำสำหรับบ้านที่มีค่าไฟบ้าน/เดือน 1,000  5,000  7,000 12,000

*ประสิทธิภาพการลดค่าไฟ ขึ้นอยู่ปริมาณการใช้ไฟเวลากลางวัน

โดยการติดโซล่าเซลล์ของระบบ On Grid ของ PSI จะมีระยะเวลารับประกันแผงโซล่าเซลล์และอินเวอร์เตอร์นาน 5 ปี สามารถใช้งานได้มากกว่า 20 ปี ซึ่งระยะเวลาคืนทุนโดยประมาณ จะอยู่ที่ 4-5 ปี จึงเรียกได้ว่าเป็นระบบที่คุ้มทุนได้ไวที่สุดและเป็นที่นิยมติดมากที่สุดนั่นเอง

หากสนใจการติดตั้งโซล่าเซลล์ที่คุ้มค่าต่อการลงทุนต้อง PSI ผู้นำด้านโซล่าเซลล์ เพราะเป็นโซล่าเซลล์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย อินเวอร์เตอร์ผ่านมาตรฐานการรับรองจากการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

สามารถสั่งซื้อหรือเข้าไปดูรายละเอียดสินค้าได้ใน PSI.CO.TH และสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซล่าเซลล์ รวมถึงคำปรึกษาเกี่ยวกับการติดตั้งผ่าน Call Center ด้วยหมายเลข 1247 รวมทั้งช่องทางออนไลน์ของ PSI ทุกช่องทาง

LINE: @PSI1247

FB : https://www.facebook.com/psisats

บทความที่เกี่ยวข้อง

 

ติดโซล่าเซลล์บ้านระบบออนกริด

SALE
฿199,000.00
SALE
฿189,000.00
SALE
฿259,000.00